นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรรมการประสานงาน 3 ฝ่าย ได้ถกเถียงถึงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 จะสามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โหวตรอบสองได้หรือไม่ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ดังนั้นในการประชุมรัฐสภาวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เมื่อเปิดประชุมแล้ว ตามมติ 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอชื่อนายพิธา ให้โหวตนายกฯ อีกรอบ แต่ถ้ามีคนเห็นต่างอยากให้ญัตติดังกล่าวตกไปก็จะต้องมาอภิปรายถกเถียงกัน สุดท้ายคงต้องใช้วิธีการลงคะแนนตัดสิน ถ้าญัตติดังกล่าวตกก็ถือว่าจบไป ต้องไปนัดประชุมรอบใหม่
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหลายเรื่องจะต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเนื้อหาสาระของเอ็มโอยูทั้ง 8 พรรคหลายเรื่องจะต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การยกเลิก เช่น ชื่อของนายพิธา จะต้องเปลี่ยนไปเป็นใคร การเติมเสียงพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 การหาเสียง สว.มาสนับสนุนเพิ่มเติม
“ถ้าประธานรัฐสภาจะบรรจุญัตติเลือกนายกฯ ในสัปดาห์หน้า เราก็มีความพร้อม” นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนที่ สว.มีเงื่อนไขหากพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลก็จะไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นแค่สถานการณ์สมมุติ การจะได้ 375 เสียง จะต้องดูว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาลเห็นอย่างไร และเพื่อไทยมีสิทธิที่จะปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง รวมถึงการฟังเสียงของ สว. องค์ประกอบเหล่านี้จะต้องนำมาประกอบกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งไปคาดการณ์อะไรถึงขั้นนั้น
ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ในการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นยังเป็นความเห็นส่วนตัวของ น.ส.แพทองธาร เรื่องนี้จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคก่อน ส่วนชื่อของนายเศรษฐาจะสามารถนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค.ได้ทันทีหรือไม่หากชื่อของนายพิธาไม่ผ่าน ในทางปฏิบัติไม่ควรยื่นญัตติซ้อนไป เพราะชื่อของนายเศรษฐาไม่เคยเอาเข้าสู่ที่ประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ เพื่อหารือกันมาก่อน อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูเหตุการณ์ในวันที่ 19 ก.ค.อีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 66)
Tags: MOU, ชลน่าน ศรีแก้ว, นายกรัฐมนตรี, พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, รัฐสภา