ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (17 ก.ค.) โดยหุ้นริชมอนด์นำตลาดร่วงลง หลังเปิดเผยยอดขายที่อ่อนแอเกินคาด นอกจากนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาในจีนได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 457.92 จุด ลดลง 2.91 จุด หรือ -0.63%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,291.66 จุด ลดลง 82.88 จุด หรือ -1.12%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,068.65 จุด ลดลง 36.42 จุด หรือ -0.23% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,406.42 จุด ลดลง 28.15 จุด หรือ -0.38%
หุ้นริชมอนด์ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 10.4% ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังเปิดเผยการขยายตัวของยอดขายในไตรมาสแรกลดลง
หุ้นอื่นๆ ในกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวลงด้วย อาทิ แอลวีเอ็มเอช, แอร์เมส และเคอริง ปรับตัวลงราว 1-4.2%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนร่วงลงมากที่สุด 2.6%
ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราที่อ่อนแอในไตรมาส 2 เนื่องจากอุปสงค์ซบเซา และเพิ่มแรงกดดันให้ผู้กำหนดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง 2.1% เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีนถ่วงราคาโลหะลง
นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย เนื่องจากวิตกว่าธนาคารกลางรายใหญ่ อาทิ ธนาคารกลางอังกฤษ จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อาทิ บริษัทเทสลาของสหรัฐคาดว่าจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป