นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 16 ก.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้โทรศัพท์มาหาตน และบอกว่ามีการส่งเทียบเชิญมายัง ชทพ.จากพรรคก้าวไกล ที่อยากจะขอให้พิจารณาในการเข้าร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ ตนคงไม่สามารถตอบรับได้ทันที ต้องขอนำเข้าไปหารือในที่ประชุมพรรค และหารือกับ ส.ส.ในพรรคก่อนว่ามีแนวทางเป็นอย่างไร และได้ยืนยันไปว่าแนวทางของ ชทพ. คือ ไม่แตะต้องเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่เป็นแนวทางหลักของ ชทพ.
ถ้ามีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 เป็นไปได้หรือไม่ว่า ชทพ.จะโหวตสวน เพราะในรอบแรกได้งดออกเสียงไปแล้ว นายวราวุธ กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่จะต้องหารือกับ ส.ส.ในพรรคก่อน
“เราทำอะไร จะต้องไปในแนวทางเดียวกัน ไม่อยากจะปล่อยให้ฟรีโหวต เพราะไม่ได้ต่างคนต่างทำงาน เราทำงานด้วยกันในนาม ชทพ.” นายวราวุธ กล่าว
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกล ยื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตซ์ ส.ว. นายวราวุธ กล่าวว่า มาตรา 272 ในประโยคแรกระบุว่า ภายใน 5 ปีหลังจากใช้รัฐธรรมนูญ จะให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอีกไม่นาน วรรคนี้จะหมดความหมายลง เนื่องจากเลยกำหนดเวลาในบทเฉพาะกาลแล้ว ดังนั้น การจะแก้รัฐธรรมนูญในช่วงนี้ จะเป็นการสร้างเงื่อนไขใหม่ให้เกิดความซับซ้อนและกินเวลาในการโหวตเลือกนายกฯ ฉะนั้น ถ้าจะแก้ไขแค่มาตรา 272 ควรยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับดีกว่า
ซึ่ง ชทพ. ยังยึดมั่นนโยบายคล้ายกับหลายพรรค คือ ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอาจจะยึดโมเดลของรัฐธรรมนูญปี 40 และเพิ่มเติมปรับปรุงเข้าไปให้เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะแก้มาตราใดหรือบทใด หัวใจสำคัญของ ชทพ. ต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 66)
Tags: พรรคก้าวไกล, พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคเสรีรวมไทย, ม.272, รัฐบาล, วราวุธ ศิลปอาชา, เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส