นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.ชัยนาท พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.ว่า ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อใคร แต่หากยังมีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ต้องไปหารือกันในพรรคก่อนซึ่งจะนัดประชุมวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) และเชื่อว่าไม่มีแนวคิดในการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ หากพรรคก้าวไกล ยืนยันจะเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็จะเดินหน้าไปได้ยากมาก
สำหรับประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่เห็นด้วยที่จะมีการเสนอชื่อนายพิธาซ้ำในรอบที่ 2 นั้น นายอนุชา กล่าวว่า ต้องไปหารือกันในที่ประชุมสภาฯ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะอำนาจตัดสินใจอยู่ที่สภาฯ ส่วนจะให้โอกาสเสนอชื่อนายพิธา ในการโหวตนายกฯ ได้กี่ครั้งนั้น คงต้องถามความเห็นจากส่วนรวม
ส่วนที่พรรคก้าวไกลแก้เกม โดยการเดินหน้ายื่นเรื่องเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น นายอนุชา มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเป็นไปตามวาระและขั้นตอน ส่วนจะผ่านไปได้แค่ไหน ในอดีตก็เห็นแล้ว
“เดิมที ได้มีการยื่นแก้ไขมาตราดังกล่าวมาถึง 6 ครั้ง ส่วนครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องไปว่ากันที่สภาฯ ส่วนจะเป็นการแก้เกมของพรรคก้าวไกลหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็ไม่รู้มาก่อนว่าจะเดินเกมกันแบบนี้” นายอนุชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยควรต้องเข้ามามีบทบาทแล้วหรือไม่ ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุชา กล่าวว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต้องไปพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และถ้าพรรคเพื่อไทยมีเงื่อนไขให้พรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ก็ต้องดูว่าจะยังทำให้มีปัญหาหรือไม่ ซึ่งต้องไปว่ากันในวันโหวตนายกฯ ตนคงไม่สามารถพูดแทนใครได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 66)
Tags: นายกรัฐมนตรี, พรรคก้าวไกล, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ม.112, อนุชา นาคาศัย