ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (17-21 ก.ค.) ไว้ที่ระดับ 34.00-34.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองไทย และสัญญาณเงินทุนต่างชาติ (Flow) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR และตัวเลขเศรษฐกิจจีน อาทิ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/66 การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.
โดยเงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 35.00 บาท/ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านออกมาแสดงความเห็นว่า แม้เฟดจะยังคงต้องคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ก็ยอมรับว่าเฟดน่าจะกำลังใกล้ยุติวัฎจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว
เงินดอลลาร์ยังคงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ หลังสัญญาณชะลอตัวของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย.) หนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า แม้เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนก.ค. แต่ก็อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกไม่มากแล้วหลังจากนั้น อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค.66 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.65 บาท/ดอลลาร์ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ในระหว่างสัปดาห์) เทียบกับ 35.20 บาท/ดอลลาร์ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ก.ค.66) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 10-14 ก.ค.66 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 514 ล้านบาท และ 3,570 ล้านบาท ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 66)
Tags: KBANK, ค่าเงินบาท, ธนาคารกสิกรไทย, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท