สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศร่ำรวยที่เศรษฐกิจย่ำแย่เป็นพิเศษ
IEA กล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 แตะระดับเฉลี่ย 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจีนคิดเป็นสัดส่วน 70% ของการเติบโตของอุปสงค์ทั่วโลกในปีนี้
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการปรับลดลง 220,000 บาร์เรลต่อวัน จากรายงานคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่ง IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
IEA ระบุในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า “ปัญหาเศรษฐกิจมหภาคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการผลิตที่ตกต่ำลงอย่างหนัก ทำให้เราต้องปรับลดประมาณการการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกสำหรับปี 2566 ให้ต่ำลงเป็นครั้งแรกในปีนี้”
“อุปสงค์น้ำมันโลกได้รับแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย เนื่องจากนโยบายด้านการเงินที่เข้มงวดอย่างมากในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา” IEA กล่าว
IEA กล่าวว่า ในปีหน้า อุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลงสู่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเริ่มสูญเสียแรงผลักดัน รวมถึงมีการใช้มาตรการกระตุ้นให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ค. 66)