ธนาคารกลางทั่วโลกแห่นำทองสำรองกลับประเทศ หวั่นถูกอายัดตามรอยรัสเซีย

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ประเทศที่นำทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นทองคำกลับประเทศนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกอายัดทรัพย์เหมือนกับรัสเซีย หลังจากชาติตะวันตกพร้อมใจกันออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อกรณีที่ยกพลบุกโจมตียูเครน ขณะที่ประเทศต่าง ๆ แห่ซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง

อินเวสโก (Invesco) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการด้านการลงทุนของสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจนักลงทุนที่เป็นประเทศระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากต้องการหาแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง และราคาตราสารหนี้ที่มีความผันผวน โดยจีนและตุรกีซื้อทองคำรวมกันแล้วคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของการซื้อทองคำในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางต่าง ๆ เลือกที่จะซื้อทองคำแท่งแทนที่จะเป็นอนุพันธ์หรือกองทุนทองคำ ETF เนื่องจากวิตกกังวลต่อกรณีที่สหรัฐและประเทศอื่น ๆ สั่งอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย

นอกจากนี้ ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังเลือกที่จะถือครองทองคำไว้ภายในประเทศ เนื่องจากความตึงเครียดทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยผลสำรวจของอินเวสโกพบว่า 68% ของธนาคารกลางถือครองทองคำสำรองไว้ภายในประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 2563 และในเวลา 5 ปี ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะ 74%

“ปีนี้ธนาคารกลางนิยมซื้อทองคำแท่งเพิ่มขึ้นอย่างมากและหันมาถือทองคำเหล่านั้นไว้ภายในประเทศแทนที่จะฝากไว้กับธนาคารกลางในต่างประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสั่งอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางรัสเซีย”

นายรอด รินโกรว์ หัวหน้าฝ่ายสถาบันรัฐบาลของอินเวสโก กล่าว

หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบได้ไม่นาน สหภาพยุโรป (EU) สหรัฐและประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 อื่น ๆ ก็ประกาศว่าจะออกมาตรการคว่ำบาตรต่อธนาคารกลางรัสเซียและสกัดรัสเซียจากการเข้าถึงทุนสำรองระหว่างประเทศที่ฝากไว้ในต่างประเทศประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ปัจจุบัน EU กำลังพิจารณานำผลตอบแทนที่ได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศก้อนนี้มอบให้กับยูเครน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 66)

Tags: , , ,