เอชเอฟอาร์ (HFR) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเปิดเผยในวันจันทร์ (10 ก.ค.) ว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกมีกำไรเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนมิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารที่ผ่อนคลายลง
ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้น 3.45%
เคนเน็ธ เจ ไฮนซ์ ประธาน HFR กล่าวว่า “เฮดจ์ฟันด์ทำกำไรเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการลงทุนในหุ้นเติบโต (growth equity) โดยเฉพาะหุ้นเกี่ยวกับ AI ขณะที่อุตสาหกรรมเฮดจ์ฟันด์โดยรวมเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง”
กองทุนเฮดจ์ฟันด์ตลาดหุ้น (Equity Hedge Funds) ซึ่งเชี่ยวชาญในการคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นหรือลงนั้น สามารถทำผลงานได้ดีที่สุดในบรรดาเฮดฟันด์ 4 ประเภทที่ติดตามโดย HFR โดยเฮดจ์ฟันด์ตลาดหุ้นสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 2.94% ในเดือนมิ.ย. และ 5.55% นับตั้งแต่ต้นปีนี้
ส่วนเฮดจ์ฟันด์เศรษฐกิจมหภาค (Macro Hedge Funds) ซึ่งเน้นลงทุนตามแนวโน้มเศรษฐกิจนั้น มีกำไรเพิ่มขึ้น 1.47% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่เฮดฟันด์ที่เน้นลงทุนเกี่ยวกับการธุรกรรม (Event-driven Hedge Funds) ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการและควบรวมกิจการนั้น มีกำไรเพิ่มขึ้น 2.78% ในเดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 66)
Tags: AI, HFR, กองทุนเฮดจ์ฟันด์, ปัญญาประดิษฐ์, เฮดจ์ฟันด์