เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) เปิดเผยในวันนี้ว่า โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์ของมาเลเซียจะกลับมาอยู่ในทิศทางที่ปกตินั้น อาจจะยืดเยื้อออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และอุปสรรคต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะใกล้อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
S&P คาดว่า การฟื้นตัวของภาคธนาคารมาเลเซียจะยังคงล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย พร้อมระบุว่า โครงการพักชำระหนี้ระยะเวลา 6 เดือนที่ริเริ่มโดยรัฐบาลมาเลเซียนั้น จะยิ่งทำให้ระยะเวลาที่ธนาคารพาณิชย์จะกลับมาสู่ภาวะปกติได้เหมือนเดิมต้องยืดเยื้อออกไปอีก
“ระยะเวลาของมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศในมาเลเซีย และการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของภาคธนาคาร” แนนซี ดูแอน นักวิเคราะห์ของ S&P กล่าว
ทั้งนี้ S&P ประมาณการในเรื่องดังกล่าวบนพื้นฐานของต้นทุนด้านสินเชื่อซึ่งเป็นมาตรวัดแนวโน้มการขาดทุนเนื่องจากการปล่อยกู้ โดยข้อมูลต้นทุนสินเชื่อได้สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ของมาเลเซียจะฟื้นตัวช้ากว่าธนาคารของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
“เราคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ของมาเลเซียจะแบกรับต้นทุนสินเชื่อโดยรวมซึ่งอยู่ที่ 1.10-1.20% ของการปล่อยสินเชื่อ (gross loans) ในปี 2564 และ 2565 รวมกัน เราคาดว่าอัตราส่วนของเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคธนาคารมาเลเซียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะ 3-4% ภายในสิ้นปี 2565” S&P ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)
Tags: ธนาคารมาเลเซีย, พักชำระหนี้, มาเลเซีย, สินเชื่อ, เศรษฐกิจมาเลเซีย, เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์