ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (7 ก.ค.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับรายงานการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ ๆ ตลอดจนรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป
-
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,734.88 จุด ลดลง 187.38 จุด หรือ -0.55%
-
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,398.95 จุด ลดลง 12.64 จุด หรือ -0.29%
-
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,660.72 จุด ลดลง 18.33 จุด หรือ -0.13%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลงราว 2%, ดัชนี S&P500 ลดลงราว 1.2% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.9%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
การจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนมิ.ย. แม้การขยายตัวของค่าจ้างที่แข็งแกร่งยังคงบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวก็ตาม
ตลาดยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค.นี้ หลังจากตรึงดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการขยายตัวของการจ้างงานในสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยในรอบ 10 ปีก่อนเกิดโรคระบาด
นายออสตัน กูสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ที่ว่า จำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเกินไป
หุ้นกลุ่มปลอดภัยในดัชนี S&P500 ปรับตัวลงมากที่สุด โดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ลดลง 1.3% ขณะที่กลุ่มพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.1% และกลุ่มวัสดุ บวก 0.9%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นลีวาย สเตราส์ ร่วง 7.7% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปี
ส่วนหุ้นอาลีบาบาของจีนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้น 8% สวนทางตลาด หลังเจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยว่า จะสั่งปรับบริษัทแอนท์ กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอาลีบาบาเป็นเงิน 984 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการสั่งปรับแอนท์ กรุ๊ปดังกล่าวจะถือเป็นการยุติมาตรการตรวจสอบด้านกฎระเบียบและการปรับโครงสร้างซึ่งทางการจีนมีการบังคับใช้กับบริษัทเป็นเวลานานหลายปี และถือเป็นการเปิดทางให้แอนท์ กรุ๊ปกลับมาทำ IPO รวมทั้งเข้าจดทะเบียนในตลาด และได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจเป็นบริษัทโฮลดิ้งทางการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 66)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก