นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้ส่งคำร้องทางไปรษณีย์ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบว่ากรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ถือสิทธิและรายได้จากการขายหนังสือ 4 เล่มคือ หนังสือวิถีก้าวไกล, ความรัก คือการตกหลุมรักหลายๆ ครั้ง, ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน, ด้วยรักจากอนาคต นั้นเข้าข่ายเป็นเจ้าของในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) หรือไม่ และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) หรือไม่
ทั้งนี้ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ พบว่านายพิธาแจ้งในรายการสิทธิและสัมปทานในหนังสือ 4 เล่มดังกล่าวและมีรายได้จากการขายหนังสือ จำนวน 431,712 บาท โดยหมายเหตุว่า รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 107,928 บาทต่อปี เมื่อไปค้นทางอินเตอร์เนตพบว่า หนังสือทั้ง 4 เล่ม มีการระบุชื่อของนายพิธาในฐานะผู้เขียนด้วยตัวเอง หรือร่วมกับผู้เขียนอื่นไว้ด้วย
ขณะที่เว็บไซต์พรรคก้าวไกล มีการลงโฆษณาขายหนังสือ”วิถีก้าวไกล: พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ “(พร้อมจำหน่าย) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ค.66 ในราคาเล่มละ 300 บาท วางจำหน่ายที่ ชั้น 2 อาคารอนาคตใหม่ โดยหนังสือเล่มนี้ ระบุว่า ผู้เขียนและสำนักพิมพ์ คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงเห็นว่าการที่นายพิธาแจ้ง ป.ป.ช.ด้วยลายมือตัวเองว่า มีรายได้จากการขายหนังสือ และหนังสือ 4 เล่ม มีนายพิธาเป็นผู้เขียนด้วยตัวเองหรือร่วมกับผู้เขียนอื่นนั้น จะทำให้นายพิธาเข้าข่ายเป็น “เจ้าของ” ในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่ จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบ และส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธาสิ้นสุดลงหรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 66)
Tags: การเมือง, พรรคก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ