นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากเดิมที่ ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ แต่สถานการณ์ล่าสุดยังเห็นความไม่แน่นอน และความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่ง ธปท.ได้มองเผื่อไว้บางส่วน แต่หากมีความรุนแรงมากขึ้นและยืดเยื้อก็จะต้องพิจารณาตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ธปท.ยังเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์การจ้างงาน ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 2 ครั้งที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับปัจจัยการจ้างงาน โดยเฉพาะแนวโน้มการว่างงานระยะสั้นจะกลายเป็นระยะยาวมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียทักษะแรงงาน รายได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้การจ้างงานเกิดแผลเป็น
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.64 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามอุปสงค์ในประเทศและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ลดลงจากการแพร่ระบาดระลอกสาม ส่งผลให้การลงทุนทั้งหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้างปรับลดลง
ทั้งนี้ ธปท.ระบุประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาด ความต่อเนื่องในการจัดหาและความเร็วในการกระจายวัคซีน และ Supply shortages ที่อาจกระทบต่อภาคการส่งออก การผลิต และการก่อสร้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)
Tags: ชญาวดี ชัยอนันต์, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., มาตรการกึ่งล็อกดาวน์, ล็อกดาวน์, เศรษฐกิจไทย