PHG เปิดเทรดวันแรก 19.80 บาท ลดลง 1.20 บาท (-5.71%) จากราคา IPO 21 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุ บมจ.แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG) ยังมีทิศทางการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องในอนาคตภายหลังจาก IPO จากการนำไปเงินระดมทุนไปขยายการให้บริการรองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และยังเห็นสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยประเมินราคาที่เหมาะสมไว้ที่ 29 บาท/หุ้น
บล.กรุงศรี ระบุ แนวโน้มกำไรของ PHG ประเมินว่ายังมีการเติบโตเฉลี่ย 21% ต่อปี จากการปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของผู้ป่วยโรคไม่เร่งด่วน, สปส.ปรับอัตราเหมาจ่ายรายปีขึ้น 10.2% ตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 และโควต้าเพิ่ม 12.8% ตั้งแต่ปลายปี 67 และการขยายความจุ OPD 24%, IPD 33%, ศูนย์ฟอกไต 114% และขยายธุรกิจใหม่เช่น ศูนย์รักษาโรคมะเร็งครบวงจร, ศูนย์เวชกรรมฟื้นฟู และศูนย์รักษาโรคทางนรีเวช
ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นบวก จากการเปลี่ยนแปลงในทางบวกของภูมิศาสตร์จังหวัดปทุมธานีและบริเวณใกล้เคียง โดยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีประชากรหนาแน่นและเป็นแหล่งงานที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีสาธารณูปโภคครบครัน การเดินทางสะดวก และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทางด้านประชากรศาสตร์เป็นบวกเช่นเดียวกัน คนไทยอายุยืนยาวขึ้น และเป็นสังคมสูงวัย ทำให้เป็นโรคซับซ้อนและโรคเรื้อรังมากขึ้น การขยายตัวของสังคมเมืองและผู้มีรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้น ส่งผลความต้องการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพมากขึ้น โดยประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 29 บาท/หุ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66)
Tags: IPO, PHG, หุ้นไทย, แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป