สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตะวันตกและจีนว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนได้เตือนเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียแบบเป็นการส่วนตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนแอบวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ว่าจีนจะสนับสนุนรัสเซียก็ตาม
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปธน.สีเตือนปธน.ปูตินในช่วงที่เดินทางเยือนกรุงมอสโกเมื่อเดือนมี.ค. โดยถือเป็นหนึ่งในภารกิจเยือนต่างแดนครั้งแรก ๆ หลังปธน.สีเก็บตัวอยู่ภายในจีนหลายปีตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์
แหล่งข่าวระบุว่า นับจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่จีนก็เคลมผลงานว่าเป็นผู้สามารถโน้มน้าวให้ปธน.ปูตินเลิกขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน
ที่ปรึกษาอาวุโสรายหนึ่งของรัฐบาลจีนระบุว่า การยับยั้งปธน.ปูตินจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นปัจจัยหลักของนโยบายฟื้นฟูความสัมพันธ์กับยุโรปของจีน หลังการโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2565 ของรัสเซีย ทำให้รัสเซียและจีนแตกคอกับประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป
รายงานระบุว่า จีนออกมาแถลงคัดค้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์หลายครั้ง แต่กลุ่มผู้สนับสนุนยูเครนจำนวนมากยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความจริงใจของจีน เมื่อพิจารณาถึงคำพูดของปธน.สีที่ระบุว่า จีนกับรัสเซียเป็นพันธมิตรแบบไร้ขีดจำกัดและ “แผนสันติภาพ” ที่จีนเสนอก็ทับซ้อนกับประเด็นข้อเรียกร้องของรัสเซียอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การที่ปธน.สีกล่าวเตือนปธน.ปูตินแบบเป็นส่วนตัวนั้นได้สร้างความหวังว่าจีนมีความจริงใจต่อสิ่งที่แถลงผ่านสาธารณชน และเป็นไปได้ว่าจีนอาจจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมาข่มขู่ จึงทำให้ปธน.ปูตินยอมหยุดขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
“จีนได้รับเครดิตจากกรณีที่เตือนรัสเซียเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทั้งฉากหน้าและฉากหลัง”
เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของคณะบริหารสหรัฐกล่าว
นายโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ระบุในเดือนมี.ค. ว่า การเยือนรัสเซียของปธน.สีนั้นช่วย “ลดความเสี่ยงของการเกิดสงครามนิวเคลียร์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 66)
Tags: จีน, ยูเครน, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน, สี จิ้นผิง