นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์อย่างเร็วที่สุดในปีนี้ เพื่อเปิดทางให้เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปลายปีหน้า
นายวอลเลอร์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า “อัตราว่างงานของสหรัฐจะต้องปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ และอัตราเงินเฟ้อจะต้องอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เราจะพิจารณาอย่างจริงจังเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ซึ่งผมไม่ปฏิเสธว่ามันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว”
ขณะเดียวกันนายวอลเลอร์ได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเขาเป็น 1 ใน 7 กรรมการเฟดที่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 และไม่เปิดเผยว่าเขาเป็น 1 ในกรรมการเฟด 11 คนที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566
อย่างไรก็ดี นายวอลเลอร์กล่าวว่า “เนื่องจากระยะวิกฤตของการแพร่ระบาดได้ผ่านพ้นไปแล้ว เฟดจึงอยู่ในระยะของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่แตกต่างจากเมื่อก่อน และถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มพิจารณาเรื่องการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากการพิจารณาว่าควรดำเนินการอย่างไรและเมื่อใดในการปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
“ผมสนับสนุนให้เริ่มจากการปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ MBS ก่อน เนื่องจากขณะนี้ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังอยู่ในภาวะร้อนแรงและไม่ต้องการการสนับสนุนที่ไม่จำเป็น”
นายวอลเลอร์กล่าว
นายวอลเลอร์เป็นกรรมการเฟดคนใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานในคณะกรรมการเฟดในปีที่แล้ว หลังจากที่เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยให้กับนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์
สำหรับนายบูลลาร์ดนั้น เขาได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
“ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด”
นายบูลลาร์ด กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)
Tags: คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์, ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, สินเชื่อที่อยู่อาศัย, อัตราดอกเบี้ย, อัตราว่างงาน, อัตราเงินเฟ้อ, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ