บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (3-7 ก.ค.) มีแนวรับอยู่ที่ 1,480 และ 1,460 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) สถานการณ์การเมืองในประเทศ และการประชุมของกลุ่มโอเปก (5-6 ก.ค.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่น จีนและยูโรโซน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือนที่ 1,461.61 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาปิดเหนือ 1,500 จุดช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในประเทศ ประกอบกับตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มอื่นๆ ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์เผชิญแรงกดดันจากความกังวลประเด็นเรื่องหนี้เสีย อย่างไรก็ดีหุ้นไทยทยอยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังนักลงทุนคลายความกังวลต่อประเด็นการเมือง (แม้จะยังต้องติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป) รวมถึงมีปัจจัยหนุนจากการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นไตรมาส
เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,503.10 จุด ลดลง 0.16% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,695.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.37% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.74% มาปิดที่ระดับ 459.78 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย