ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และดัชนีราคาบ้านพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 30 ปี
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,292.29 จุด เพิ่มขึ้น 9.02 จุด หรือ +0.03%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,291.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด หรือ +0.03%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,528.34 จุด เพิ่มขึ้น 27.83 จุด หรือ + 0.19%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 127.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.0
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 14.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว
การพุ่งขึ้นของราคาบ้านในสหรัฐช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านและกลุ่มก่อสร้างดีดตัวขึ้น โดยหุ้นพัลท์กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.96% หุ้นเลนนาร์ คอร์ปอเรชัน บวก 0.82% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน เพิ่มขึ้น 1.09% หุ้นอาร์มสตรอง เวิลด์ อินดัสทรีส์ พุงขึ้น 1.54% หุ้นสกายไลน์ คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 2.42%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.15% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับขึ้น 1.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1% หุ้นทวิตเตอร์ ปรับตัวขึ้น 1.01%
หุ้นสกายเวิร์ค โซลูชันส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของบริษัทแอปเปิล พุ่งขึ้น 4.52% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทบาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นบริษัทสกายเวิร์ค โซลูชันส์ เพราะเชื่อมั่นว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone รุ่นใหม่
หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 5.17% ปิดที่ระดับ 234.46 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากโมเดอร์นาเปิดเผยผลการทดลองล่าสุดซึ่งระบุว่า วัคซีนของบริษัทสามารถสร้างแอนติบอดีที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.33% ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.06% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ภายหลังจากที่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ซึ่งดำเนินการโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศว่าจะปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 70 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50 เซนต์ ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ ประกาศแผนเพิ่มการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิม 1.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 683,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก