บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (29 มิ.ย.) ว่า การผลิตรถยนต์ทั่วโลกในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 847,000 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากปัญหาที่ผ่อนคลายลงหลังเกิดภาวะขาดแคลนชิปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โตโยต้าระบุว่า ยอดการผลิตในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 72.2% สู่ระดับ 248,287 คัน ขณะที่การผลิตในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 22.0% สู่ระดับ 598,713 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนพ.ค.เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยอดการผลิตในจีนปรับตัวลงเนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษของรถยนต์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่ผลกระทบดังกล่าวถูกชดเชยด้วยการผลิตที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและยุโรป ที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์เมื่อปีก่อน
ยอดขายรถยนต์โตโยต้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 838,478 คัน โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ส่วนยอดส่งออกพุ่งขึ้น 46.7% สู่ระดับ 141,774 คัน โดยได้รับดีมานด์ที่สูงขึ้นจากประเทศต่าง ๆ อาทิ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ซึ่งมีภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ขณะที่รถยนต์รุ่นสำคัญต่าง ๆ ยังขายดีในอินเดียอีกด้วย
สำหรับยอดขายในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์ขนาดเล็ก เพิ่มขึ้น 35.1% สู่ระดับ 116,954 คัน โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ โตโยต้ามีแผนที่จะผลิตและขายรถยนต์มากกว่า 10 ล้านคันทั่วโลกเป็นครั้งแรกในปีนี้ไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มิ.ย. 66)
Tags: ชิป, ยอดการผลิตรถยนต์, รถยนต์, โตโยต้า