ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ของญี่ปุ่นในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย. แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 2% เป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน
ข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับมุมมองของ BOJ ที่ระบุว่า ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว และทำให้มีการคาดการณ์ว่า ภายในปีนี้ BOJ อาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ข้อมูลดัชนี CPI พื้นฐานทั่วประเทศดังกล่าวซึ่งไม่รวมอาหาร แต่รวมผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานนั้น สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ตลาดคาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 3.1% แต่ชะลอตัวลงจากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.
เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมายมาเป็นเวลา 1 ปี ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า อีกไม่นาน BOJ จะเริ่มยกเลิกมาตรการกระตุ้น ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ระบุว่า จะเป็นการบิดเบือนตลาดและจะส่งผลกระทบต่อกำไรของสถาบันการเงิน
นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของ BOJ ที่จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 2% อย่างยั่งยืน และเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับขึ้นค่าจ้าง
นอกจากนี้ นายอุเอดะยังกล่าวอีกว่า ดัชนี CPI พื้นฐานจะชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 2% ในช่วงกลางปีงบประมาณนี้ แม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดข้อกังขาต่อมุมมองดังกล่าวก็ตาม
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเพิ่มโอกาสที่ BOJ จะปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในการทบทวนรายไตรมาสครั้งถัดไปในเดือนก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 66)
Tags: BOJ, CPI, ญี่ปุ่น, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ธนาคารกลางญี่ปุ่น