ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งดำเนินการกับบมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ STARK
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตามที่บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 และงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด จนเป็นเหตุให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 STARK ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ และปรากฏว่าส่วนของผู้ถือหุ้นปี 2564 (ปรับปรุงใหม่) และปี 2565 มีค่าน้อยกว่าศูนย์เป็นจำนวน 2,895 ล้านบาท และ 4,415 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้หลักทรัพย์ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้
1. ประกาศให้หลักทรัพย์ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-compliance)
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK จากกรณีที่หลักทรัพย์ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์นั้น เนื่องจากหลักทรัพย์ STARK ได้รับอนุญาตให้สามารถซื้อขายได้เป็นการชั่วคราวในระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2566
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ
2. ให้ STARK เปิดเผยแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ พร้อมทั้งกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบ ภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566
3. ให้ STARK เร่งดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ให้หมดไปภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งหากครบกำหนดเวลาแล้ว STARK ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนดังกล่าวให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ STARK ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดให้มีการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2566) หลังจากที่หลักทรัพย์ STARK ได้ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เป็นระยะเวลาครบ 3 เดือน ด้วยเหตุที่ STARK ไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่เปิดให้มีการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK อีก จากการที่หลักทรัพย์ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนในครั้งนี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ STARK โดยศึกษารายละเอียดงบการเงินฉบับเต็ม รายงานของผู้สอบบัญชีที่ไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน สาเหตุและแนวทางจัดการของบริษัท สรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ STARK
อนึ่ง STARK ส่งงบปี 65 เมื่อ 16 มิ.ย.66 แจ้งขาดทุนหนักกว่า 6.6 พันล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.5393 บาท พร้อมทั้งแก้งบปี 64 เปลี่ยนเป็นขาดทุน 5,965 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.501 บาท จากเดิมที่เคยแจ้งว่ากำไร 2.8 พันล้านบาท หลังจากผู้สอบบัญชีพบความผิดปกติหลายจุด และ งบการเงินสิ้นปี 65 ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 4,403 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 66)
Tags: STARK, ตลท., สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น, หุ้นไทย