สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุโจมตีทางอากาศซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในเมืองคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ขณะที่กองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง
รายงานระบุว่า การสู้รบระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) เดินทางเข้าสู่เดือนที่ 3 โดยที่ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบอย่างชัดเจน
องค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า สงครามครั้งนี้ทำให้ชาวซูดานต้องพลัดถิ่นฐาน 2.2 ล้านราย และเสียชีวิตอีกหลายร้อยราย ส่งผลให้ภูมิภาคดาร์ฟูร์เผชิญกับความหายนะทางมนุษยธรรม ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขซูดานกล่าว การสู้รบครั้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 3,000 คน และบาดเจ็บกว่า 6,000 ราย
เมื่อช่วงสายของวันเสาร์ สหรัฐและซาอุดีอาระเบียได้เข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิง 72 ชั่วโมงโดยเริ่มตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.)
กองทัพซูดานมีความได้เปรียบด้านกองกำลังทางอากาศในเมืองคาร์ทูมและเมืองใกล้เคียงอย่าง เช่น เมืองโอมดูร์มาน (Omdurman) และบาห์รี (Bahri) ขณะที่ RSF ซ่อนตัวอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ดังนั้น กองทัพซูดานจึงเร่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในวันศุกร์ (16 มิ.ย.) และวันเสาร์ เพื่อโจมตีย่านที่อยู่อาศัยหลายแห่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายพลยัซเซอร์ อัล อัตตา กล่าวเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากบ้านที่กลุ่ม RSF ยึดครอง โดยระบุว่า กองทัพพร้อมเปิดฉากโจมตีได้ทุกเมื่อ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขซูดานยืนยันจากรายงานของอาสาสมัครท้องถิ่นว่า จากเหตุโจมตีทางอากาศลล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 17 ราย รวมถึงเด็ก 5 รายในเขตมาโย ทางตอนใต้ของเมืองคาร์ทูม และบ้านเรือน 25 หลังถูกทำลาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 66)
Tags: ซูดาน, โจมตีทางอากาศ