พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หลายคนอาจคิดว่ากระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนประเทศ คือ กระทรวงเกรด A++ ที่มีงบประมาณเยอะ หรือมีอำนาจมากในการให้คุณให้โทษข้าราชการ แต่สำหรับพรรคก้าวไกล กระทรวงที่เป็นฟันเฟืองตัวแรกในการพลิกโฉมอนาคตของประเทศ คือ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม”
ซึ่งกระทรวงดิจิทัล ภายใต้รัฐบาลพรรคก้าวไกล จะไม่ใช่กระทรวงที่มีหน้าที่บล็อกเว็บไซต์ แต่จะต้องเป็นกระทรวงที่เอื้อต่อสังคมที่ทำให้เกิดสิทธิและเสรีภาพ หนึ่งใน 45 กฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอ คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่จะยกเลิกอำนาจรัฐในการปิดปากประชาชน
โดยที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงบทบาทกระทรวงดิจิทัล นอกจากการบล็อกเว็บไซต์แล้ว พวกเราคิดถึงหน้าที่อื่นไม่ออก แต่เรามองเห็นศักยภาพที่อยู่ในภารกิจของกระทรวงในการวางรากฐานอนาคตของประเทศอย่างน้อย 5 อย่างด้วยกัน คือ
1. Single Digital ID:
ทำให้บัตรประชาชนใบเดียว หรือเลข 13 หลัก สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานรัฐทั้งหมด ขอรับบริการอะไร แค่ยื่นบัตรประชาชน หรือกรอกเลขบัตรประชาชนทางอินเตอร์เน็ตก็สามารถรับบริการได้ทันที แม้จะพูดกันมาแล้วหลายรัฐบาล แต่ผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงไม่มีความเข้าใจเทคโนโลยีเพียงพอ ทำให้ความคืบหน้าของโครงการย่ำอยู่กับที่
อย่างไรก็ดี ในรัฐบาลของพรรคก้าวไกล จะเข้าไปทุบโต๊ะเพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลของหลายหน่วยงานที่กระจัดกระจาย เพื่อรวมข้อมูลให้เหลือระบบเดียวให้ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดให้นโยบายนี้เกิดได้จริง
2. โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล:
เมื่อพูดถึงโครงสร้างพื้นฐาน โดยปกติมักจะคิดถึงถนน ทางด่วน หรือรถไฟความเร็วสูง แต่สำหรับก้าวไกล โครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจของยุคปัจจุบัน คือโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยความฝันของพรรคก้าวไกล คือการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างของภาครัฐและภาคเอกชน จัดเก็บในระบบฐานข้อมูลเดียว และเปิดให้ทุกคนนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดทางเศรษฐกิจและสังคมได้ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและการรักษาสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การทำให้ Megaproject ด้านข้อมูลนี้เกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีการทำงานทั้งในแง่ของกฎหมายและแพลตฟอร์ม อันเป็นภารกิจของพรรคก้าวไกลที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น
3. เปิดข้อมูลภาครัฐทั้งหมดให้เป็น “รัฐเปิดเผย”:
สิ่งที่เปิดได้ทันที คือข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดจะต้องออกมาในรูปแบบที่เข้าถึงและตรวจสอบได้ เอกสารงบประมาณและทุกเอกสารราชการจะต้องเปลี่ยนจาก pdf ที่สแกนมาจากกระดาษ ให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถดึงออกมาประมวลผล รวมทั้งการประชุมต่างๆ ของหน่วยงานรัฐ จะต้องมีการไลฟ์สดการประชุมให้ประชาชนสามารถสืบค้นได้ คือสิ่งที่รัฐบาลก้าวไกลต้องการผลักดัน
4. การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์:
สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลคนใหม่ทำได้ทันที คือการนั่งหัวโต๊ะและเรียกคุยกับทุก social media platform ให้บังคับใช้ ‘การยืนยันตัวตนโดยใช้หลายปัจจัย’ (Multi-Factor Authentication: MFA) ให้ทุกส่วนราชการที่เปิดช่องทาง social media ต้องลงทะเบียนอีกชั้น ซึ่งจะแก้ปัญหาการที่เพจหน่วยงานรัฐต่างๆ ถูกแฮคได้ สิ่งนี้ทำได้เลยไม่ต้องรอจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ต้องใช้งบประมาณ เพจหน่วยงานไหนที่ไม่ทำตามมาตรฐานความปลอดภัย ก็จะถูกระงับการใช้งานไปก่อนจนกว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐาน
ส่วนในระยะยาว รัฐบาลพรรคก้าวไกลจะทำให้ Cloud กลางภาครัฐเกิดขึ้นจริง เพื่อป้องกันระบบจากการถูกแฮค และผลักดันกฎหมาย Data Protection Act เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่มีมาตรฐานมากขึ้น
5. ยุบศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และเลิกบทบาทปิดกั้นสิทธิเสรีภาพทั้งหมด:
การบอกว่าอะไรจริงหรือไม่จริงไม่ใช่หน้าที่ของรัฐ หน้าที่ของรัฐ คือการเปิดให้สังคมทุกภาคส่วนเข้ามาตรวจสอบ ถกเถียง และนำเสนอชุดความจริงจากฝั่งของตนเอง โมเดลที่ดีคือเหมือน Co-Fact ของไต้หวัน ซึ่งเป็นศูนย์ที่ดำเนินการโดยองค์กรสื่อ สมาคมสื่อ และภาคประชาสังคม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 66)
Tags: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ข้าราชการ, พรรคก้าวไกล, เฟซบุ๊ก