สำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรป (EEA) เปิดเผยว่า สถานศึกษาและสถานพยาบาลเกือบครึ่งหนึ่งในเมืองต่าง ๆ ของยุโรปตั้งอยู่ภายในขอบเขตของปรากฏการณ์ “เกาะความร้อน” (urban heat island) ทำให้ประชากรกลุ่มเปราะบางต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในขณะที่ผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเริ่มเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ
EEA ระบุในการวิเคราะห์การปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของยุโรปว่า สถานพยาบาลราว 46% และสถานศึกษาราว 43% อยู่ในพื้นที่ที่อุ่นกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ผลกระทบจากคลื่นความร้อนรุนแรงกว่าในพื้นที่ชนบท
ทั้งนี้ ความร้อนข้างต้นเกิดจากปรากฏการณ์เกาะความร้อน ซึ่งมีที่มาจากการที่สิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ที่กระจุกตัวกันในพื้นที่อย่างหนาแน่น จะดูดซับและกักเก็บความร้อนไว้มากกว่าพื้นที่สีเขียว
นายบลาซ คูร์นิก หัวหน้าแผนการปรับตัวต่อสภาพอากาศของ EEA กล่าวว่า “สิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์”
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันมีสาเหตุมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม กำลังทำให้คลื่นความร้อนทวีความรุนแรงขึ้นและเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผนวกเข้ากับปรากฏการณ์เกาะความร้อน จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมาย ซึ่งรวมถึงการเสียชีวิตเนื่องจากภาวะเครียดจากความร้อน (Heat stress) ของประชากรกลุ่มเปราะบางเช่น ผู้สูงอายุ
นายคูร์นิกกล่าวว่า “ประชากรกลุ่มเปราะบางในยุโรปยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัญหาประชากรสูงอายุ และเมืองที่มีความหนาแน่นมากขึ้น และเมื่อรวมกับคลื่นความร้อน สิ่งนี้ก็จะกลายเป็นความเสี่ยงที่สังคมในอนาคตต้องเผชิญ”
ด้วยเหตุนี้ EEA จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมืองต่าง ๆ เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยพื้นที่บางส่วนได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว เช่น โครงการของกรุงปารีสที่ต้องการเปลี่ยนพื้นที่ของโรงเรียนนำร่อง 10 แห่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวที่เย็นขึ้น โดยมีน้ำพุและพืชทนแล้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 66)
Tags: EEA, urban heat island, ยุโรป, สำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรป, อากาศร้อน, เกาะความร้อน