นายนัฟทาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องให้กลุ่มวัยรุ่นฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงจากการระบาดในท้องถิ่นของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (Delta)
“วันนี้ผมอยากให้ประชากรวัยรุ่นของเราออกจากบ้านและไปฉีดวัคซีน”
เบนเน็ตต์กล่าวขณะเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยหมายถึงเยาวชนที่มีอายุมากกว่า 12 ปี
เบนเน็ตต์ระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนของอิสราเอลเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากประมาณ 3,000 คนต่อวัน อยู่ที่ประมาณ 10,000 คน แต่เขามองว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่เพียงพอ
“เราต้องการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนเป็นสามเท่าอีกครั้ง ให้อยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน และนั่นย่อมเป็นไปได้”
เขากล่าว
นอกจากนี้ เบนเน็ตต์เสริมว่า รัฐบาลแต่งตั้งโรนี นูมา อดีตนายพลกองทัพบก ให้กำกับดูแลการเดินทางบริเวณพรมแดนอิสราเอล เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาของผู้ป่วยโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่จำนวนมาก มีความเชื่อมโยงกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลประกาศแนะนำกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-15 ปีให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ขณะเดียวกันอิสราเอลกลับมาบังคับใช้ข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในอาคารเมื่อวันศุกร์ (25 มิ.ย.) และมีรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 113 ราย ในวันเสาร์ (26 มิ.ย.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, XINHUA, ฉีดวัคซีน, นัฟทาลี เบนเน็ตต์, วัคซีนต้านโควิด-19, อิสราเอล, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา, โรนี นูมา