“เรืองไกร”ข้องใจกกต.ไม่สอบปมถือหุ้นสื่อทำ”พิธา”พ้นส.ส.ปี62 เตรียมเปิดข้อมูลต่อหลัง 12 มิ.ย.

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติไม่รับ 3 คำร้องสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล แต่ให้ตั้งคณะกรรมการสอบหน่วยความผิดฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ลงสมัครแต่ยังคงลงสมัครตามมาตรา 151.พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า ที่ กกต. มีมติ 6 ต่อ 0 ตีตกคำร้อง โดยอ้าง พ.ร.ป.สส. มาตรา 51 และมาตรา 60 นั้น พอฟังได้เฉพาะกรณีประเด็นที่ร้องลักษณะต้องห้ามในคราวสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อเมื่อ 4 เม.ย. 66 เท่านั้น

แต่เนื่องจาก กกต. ไปตั้งเรื่องให้สอบทางอาญาตามมาตรา 151 ฐานรู้ว่าไม่มีสิทธิสมัคร ส.ส. ซึ่งอาจทำให้เข้าใจได้ว่า กกต. เห็นว่าการถือหุ้นสื่อตามคำร้องเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ป.สส. มาตรา 42(3) ประกอบ รธน. มาตรา 98(3) ดังนั้น ในคำร้องยังมีประเด็นอื่นที่เป็นผลมาจากการถือหุ้นสื่อรวมอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. ควรดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป เช่น สมาชิกภาพ ส.ส. เมื่อต้นปี 62 สิ้นสุดลง หรือไม่ หรือทำไม กกต. ไม่ดำเนินการตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 82 ตาม พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 14 วรรคสอง ประกอบ รัฐธรรมนูญมาตรา 89 วรรคสอง ให้ถือว่า ไม่มีการเสนอชื่อนายกฯ ใช่หรือไม่

“ตัวอย่างแค่นี้ คงพอเป็นเหตุผลให้ กกต. ย้อนไปดูคำร้องให้ละเอียดว่า ยังมีงานที่ต้องทำตามหน้าที่และอำนาจต่อไป หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป หลังวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย. ศกนี้ “

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,