SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,577.14 จุด ลดลง 5.53 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขายราว 38,762 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง จากแรงกดดันโควิดระบาดหนักในประเทศ ทำให้ภาครัฐฯออกมาตรการควบคุมกึ่งล็อกดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดก็มีกว่า 5 พันราย สถานการณ์โควิดจึงยังไม่น่าไว้วางใจ-อัตราการฉีดวัคซีนโควิดก็ลดน้อยลงด้วย ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ โดยรอดูการประชุมกลุ่มโอเปก และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงติดตามสถานการณ์โควิดในประเทศ-พัฒนาการฉีดวัคซีน บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ อิงขาลง โดยมีแนวรับ 1,565-1,560 แนวต้าน 1,580-1,585 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,577.14 จุด ลดลง 5.53 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขายราว 38,762 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,581.34 จุด และระดับต่ำสุด 1,565.31 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงได้น้อยกว่าที่คาดไว้ จากแรงกดดันสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูง จนทำให้ภาครัฐฯออกมาตรการควบคุมกึ่งล็อกดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการรอดูความสำเร็จของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดจะควบคุมได้แค่ไหน อย่างไรก็ดี วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดมีกว่า 5 พันคนต่อวัน ซึ่งสถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ และอัตราการฉีดวัคซีนโควิดก็ลดน้อยลงด้วย ซึ่งพวกที่ฉีดวัคซีนไปแล้วก็ต้องรดูว่าจะสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ไวรัสกลายพันธุ์ได้เข้ามาในไทยแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบหลายตลาดติดลบ แต่ก็มีบางตลาดที่บวก อย่างตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นไต้หวัน เคลื่อนไหวในแดนบวกได้ แต่อย่างตลาดหุ้นอินเดีย, ตลาดหุ้นมาเลเซีย ติดลบจากที่ยังต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดโควิด
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ให้ติดตามพันฒนาการฉีดวัคซีน และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมถึงจับตาโครงการของภาครัฐฯจะมีการเลื่อนออกไปหรือไม่ หลังโควิดระบาดหนัก อย่างโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มใช้ 1 ก.ค.นี้ และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ รวมไปถึงติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ อิงขาลง โดยมีแนวรับ 1,565-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,931.27 ล้านบาท ปิดที่ 23.30 บาท ลดลง 0.40 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,590.16 ล้านบาท ปิดที่ 4.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,583.92 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,219.12 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,206.24 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ธีรดา ชาญยิ่งยงค์, หุ้นไทย