นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังศึกษาการลงทุนในประเทศอียิปต์ และ ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ โดยจะมีการลงทุนสร้างโรงงาน และคลังสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในด้านค่าขนส่ง และภาษีนำเข้าได้ รวมถึงช่วยเพิ่มระดับมาร์จิ้นในตลาดโซนแอฟริกาเหนือได้ไม่ต่ำกว่า 15% ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากโดยเฉพาะประเทศอียิปต์ ในเบื้องต้นได้มีการย้ายแม่พิมพ์จากไทย ไปยังโรงงานพันธมิตร จำนวน 10 เครื่อง และคาดว่าจะใช้งบลงทุนโครงการดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในเดือนมิ.ย.66 บริษัทฯ เตรียมเดินทางไปเจรจาหารือกับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มบริษัท LKQ Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เพื่อศึกษาความร่วมมือระหว่างกันในพื้นที่ภูมิภาคอาเซียน และจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคตได้อย่างก้าวกระโดด
บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ระดับ 10% หรือแตะ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจในประเทศอินเดียของบริษัท FPI AUTO PART INDIA PRIVATE LIMITED ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, บริการรับออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก, รับจ้างฉีด, ชุบโครเมียม, พ่นสี, ประกอบ ชิ้นงานทุกประเภท ปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างคึกคัก โดยคาดว่ารายได้จากอินเดียในปีนี้จะเติบโตเกิน 100% หรือจากรายได้ 110 ล้านบาทเพิ่มเป็น 240 ล้านบาท
“ภาพรวมธุรกิจยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมี Backlog อยู่ที่ 800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 50% แบ่งเป็นงานในประเทศ 400 ล้านบาท และงานจากอินเดียประมาณ 300-400 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายจากการกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ในปี 2566 เน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มรถไฟฟ้า (EV) คาดว่ายอดขายจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยได้วางงบลงทุนไว้ประมาณ 318 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจดังกล่าว”
นายสมพล กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 66)
Tags: FPI, ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้, สมพล ธนาดำรงศักดิ์, หุ้นไทย