นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยแสดงความเห็นต่อกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวี (ITV) จะเป็นความผิดให้ถูกตัดสิทธิ ส.ส. และแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่ ในหัวข้อ “ปริศนาธรรมการเมือง เรื่องหุ้น ITV” โดยระบุว่า
ในเรื่องนี้มีรัฐธรรมนูญ 4 มาตราที่เกี่ยวข้อง คือ
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การถือหุ้น ITV 42,000 หุ้นนั้นผิด และเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.นั้น นายพิธา จะขาดคุณสมบัติทั้ง ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แม้ว่าอาจจะขาย หรือโอนหุ้นออกวันใด ย่อมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงต่อการพิจารณาคดีแล้ว เพราะ
1) การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 นั้น ดำเนินการก่อนปิดรับสมัคร ส.ส.
2) มาตรา 89 (2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160
3) มาตรา 160 (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98
4) มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ
“ดังนั้น ถ้าตีความตามนี้ ก็น่าจะถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันปิดรับสมัครตามมาตรา 88 ในวันที่ 4-7 เมษายน 2566 แล้ว” นายสมชาย ระบุ
แต่หนทางที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุด คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่สรุปส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 66)
Tags: ITV, กกต., การเมือง, ถือหุ้นสื่อ, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, สมชาย แสวงการ