สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทูลิโอ เด โอลิเวียรา ผู้อำนวยการแพลตฟอร์มการลำดับพันธุกรรมและนวัตกรรมการวิจัยควาซูลู-นาทาล (KRISP) แถลงข่าวว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในแอฟริกาใต้
โอลิเวียรา กล่าวว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาก่อให้เกิดการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ในอินเดีย และคาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแอฟริกาใต้ โดยจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดของการแพร่ระบาดระดับชุมชนในจังหวัดควาซูลู-นาทาล พบว่ามีสัดส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มากที่สุด ทั้งยังเสริมว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มีอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เบตา ซึ่งถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้
ด้านมาโมโลโค คูบายี รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของแอฟริกาใต้vแถลงข่าวว่า แอฟริกาใต้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 โดยมีสถิติการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีจังหวัดเกาเต็งเป็นศูนย์กลางของการติดเชื้อครั้งใหม่นี้
กระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้รายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แอฟริกาใต้พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 18,762 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นอัตราการตรวจโรคเป็นบวกที่ 25.5% โดยในผู้ป่วยจำนวนนี้ มี 11,777 รายที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเกาเต็ง
คูบายีเชื่อว่าจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 จะรุนแรงกว่าจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ในเดือนม.ค. ซึ่งมีผู้ป่วยใหม่รายวันมากกว่า 21,000 ราย ทั้งยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อสถานดูแลสุขภาพในจังหวัดเกาเต็ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, KRISP, XINHUA, ทูลิโอ เด โอลิเวียรา, มาโมโลโค คูบายี, แอฟริกาใต้, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา