สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไบแนนซ์ (Binance) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก มีส่วนแบ่งการตลาดลดลง 25% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐดำเนินการสอบสวนไบแนนซ์อย่างต่อเนื่องสำหรับการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง
ข้อมูลของซีซีดาต้า (CCData) บริษัทด้านวิจัยจากสหรัฐ ระบุว่า ไบแนนซ์มีส่วนแบ่งด้านปริมาณการซื้อขายคริปโทฯทั่วโลกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 57.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของบริษัท แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 43%
รายงานระบุว่า ส่วนแบ่งการตลาดของไบแนนซ์ที่ลดลงอย่างรวดเร็วมีขึ้นขณะที่ไบแนนซ์เผชิญการแข่งขันทางการค้าที่ดุเดือดขึ้น รวมถึงถูกหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของสหรัฐตรวจสอบกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้น และหลังจากที่ไบแนนซ์ยกเลิกนโยบายให้ลูกค้าซื้อขายคริปโทฯโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของนิวยอร์กได้ยุติการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ของไบแนนซ์ ซึ่งเป็นโทเคนคริปโทฯชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นแหล่งเก็บมูลค่าระหว่างการเดิมพันในตลาดคริปโทฯ เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อตรึงมูลค่าไว้กับสกุลดอลลาร์และสกุลเงินดั้งเดิมอื่น ๆ
ในขณะนั้น สเตเบิลคอยน์ของไบแนนซ์ หรือที่เรียกว่า บียูเอสดี (BUSD) คิดเป็นประมาณ 40% ของปริมาณการซื้อขายรายเดือนของไบแนนซ์
ทั้งนี้ เอียน โซลอท หัวหน้าร่วมฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มาเรกซ์ (Marex) ซึ่งเป็นกลุ่มบริการทางการเงินของอังกฤษ ระบุว่า “การสั่งห้ามออก BUSD ส่งผลกระทบต่อปริมาณสภาพคล่องในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโทฯของไบแนนซ์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อไบแนนซ์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 66)
Tags: Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, ไบแนนซ์