ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า จำนวนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมาลดลง 55.3% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
รายงานระบุว่า ณ วันที่ 24 มิ.ย. มีจำนวนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ประมาณ 3.7 แสนโดส
ข้อมูลจาก CDC ชี้ให้เห็นว่า ณ วันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. มีพลเมืองสหรัฐประมาณ 45.8% ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว และมี 53.9% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีประชาชนประมาณ 152.2 ล้านรายในสหรัฐที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ในบางรัฐ เช่น แอละแบมา, ลุยเซียนา, มิสซิสซิปปี, เทนเนสซี และไวโอมิง มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต่ำ
การศึกษาใหม่ของ CDC แสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 18-24 ปี รวมถึงผู้ใหญ่ผิวดำที่ไม่ใช่เชื้อสายฮิสแปนิก และกลุ่มที่มีการศึกษาน้อย ไม่มีประกัน และมีรายได้ในครัวเรือนต่ำ มีอัตราการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และความต้องการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวได้ออกมายืนยันว่า สหรัฐจะไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% อย่างน้อย 1 โดสก่อนวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนตั้งเป้าไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 64)
Tags: CDC, COVID-19, ฉีดวัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, โควิด-19