หุ้นไทยปิดเช้าลบ 5.57 จุด พักตัวรับแรงกดดันราคาน้ำมันร่วง-แนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,529.85 จุด ลดลง 5.57 จุด (-0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 21,018 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าพักตัว รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันร่วง และ แนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อส่งผลดอลลาร์แข็งค่ากดดันบาทอ่อนค่า กระตุ้นเม็ดเงินต่างชาติไหลออกอีก แต่ยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวประคองตลาดไว้ได้บ้าง ช่วงบ่ายคาดแกว่งแดนลบต่อ ให้แนวรับ 1,520-1,525 จุด แนวต้าน 1,535-1,540 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,529.85 จุด ลดลง 5.57 จุด (-0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 21,018 ล้านบาท
  • การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีพักตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,536.08 จุด และต่ำสุด 1,527.59 จุด

น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าพักตัว รับแรงกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ดิ่งลงเกือบ 3% ใกล้หลุด 72 ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตหรือไม่ หลังรัสเซียประกาศขวางในการประชุมวันที่ 4 มิ.ย.ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ออกมา

อีกทั้งยังมีประเด็นลบจากทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยและคงดอกเบี้ยในระดับที่ใกล้เคียงกันแล้ว เป็นปัจจัยหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องกดดันค่าเงินบาทอ่อนค่า และเม็ดเงินต่างชาติไหลออก

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานปรับตัวลง และหุ้นที่จะเข้า MSCI Rebalance Index มีผลวันที่ 31 พ.ค.66 รวมถึงหุ้นเข้า FTSE SET, SET50, SET100 ทำให้ชะลอการปรับตัวลงแรงของตลาดฯ ไว้ได้บ้าง

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ แกว่งตัวแดนลบต่อ เนื่องจากนักลงทุนยังรอการเปิดเผยดัชนีรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.ของสหรัฐคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดทรงตัวจากเดือนมี.ค. และการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า ประกอบกับความคืบหน้าประเด็นการเมืองในประเทศ

ให้แนวรับไว้ที่ 1,520-1,525 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,536.38 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,325.11 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 855.62 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 724.09 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท ลดลง 1.00 บาท
  • JMART มูลค่าการซื้อขาย 721.04 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 66)

Tags: , , ,