สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนด้านพลังงานทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566 โดยเงินลงทุนกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในจำนวนดังกล่าวมีแนวโน้มจะลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานหมุนเวียน และการจัดเก็บพลังงาน
แม้ว่าผู้ที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนจะยินดีกับตัวเลขเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด แต่พวกเขาอาจต้องผิดหวังกับการคาดการณ์การลงทุนของ IEA ในด้านถ่านหิน ก๊าซ และน้ำมันที่ยังคงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้มากกว่า 1 ล้านล้านเล็กน้อยในปีนี้
IEA ระบุในรายงานการลงทุนด้านพลังงานโลกประจำปี 2566 ว่า “ปัจจุบัน การลงทุนด้านพลังงานฟอสซิลสูงกว่าเป็นเท่าตัวจากระดับที่จำเป็นซึ่งระบุไว้ในงบประมาณลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (NZE 2050)”
ทั้งนี้ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 “กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์คือปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเบื้องต้นเกิดจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ”
รายงานของ IEA ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความตกลงปารีสปี 2558 โดยความตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส โดยควรอยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 เป็นเสมือนหัวใจสำคัญในการบรรลุอุณหภูมิเป้าหมายที่ 1.5 องศาเซลเซียส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 66)
Tags: IEA, พลังงาน, เชื้อเพลิงฟอสซิล