ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้
ณ เวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 106 จุด หรือ 0.31% สู่ระดับ 34,188 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับทำเนียบขาวและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ ขานรับรายงานที่ว่า ธนาคารขนาดใหญ่ทั้ง 23 แห่งของสหรัฐสามารถผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งผลให้ธนาคารดังกล่าวสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในระดับปกติ และกลับมาซื้อคืนหุ้นได้อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.
นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงาน
นอกจากนี้ ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ถือเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานดัชนี PCE พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปีในวันนี้ โดยคาดว่าดัชนี PCE ทั่วไปพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐานพุ่งขึ้น 3.4%
อย่างไรก็ดี ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นดังกล่าวอาจถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการปิดเศรษฐกิจ หลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 64)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นสหรัฐ