กองทัพรัสเซียเผยว่า ได้สังหารผู้โจมตีมากกว่า 70 ราย ในระหว่างปฏิบัติการเพื่อขับไล่ผู้บุกรุกข้ามพรมแดนจากยูเครนที่ได้ล่วงล้ำเข้ามายังแคว้นเบลโกรอดของรัสเซีย และต่อสู้กับฝ่ายรัสเซียเป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนที่จะออกจากดินแดนไป
รายงานระบุว่า รัสเซียได้ส่งเครื่องบินไอพ่นและยิงปืนใหญ่เมื่อวันอังคาร (23 พ.ค.) เพื่อทำลายกลุ่มติดอาวุธที่รุกล้ำพื้นที่ชายแดน ซึ่งนับเป็นการโจมตีที่กล้าหาญที่สุดในเขตแดนรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มกรานยูเครนเมื่อปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่รายงานว่า พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 รายจากปืนใหญ่และปืนครกระหว่างการสู้รบ และผู้หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างการอพยพเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.) และมีรายงานว่าพลเรือนรายที่ 2 เสียชีวิตในหมู่บ้านโคซินคา
เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า หมู่บ้านชายแดน 9 แห่งถูกอพยพระหว่างการสู้รบ
“โดยรวมแล้ว กลุ่มก่อการร้ายมากกว่า 70 คน รถหุ้มเกราะ 4 คัน และรถกระบะ 5 คันถูกทำลาย สำหรับวันนี้ ทางการได้ยกเลิกปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายในแคว้นเบลโกรอดแล้ว” สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของรัสเซียรายงานในวันนี้ (24 พ.ค.) พร้อมระบุว่าผู้โจมตีเป็น กลุ่มก่อวินาศกรรมและลาดตระเวนจากยูเครน
ด้านนายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า กองกำลังทหารท้องถิ่น การโจมตีทางอากาศ และการยิงปืนใหญ่ได้ไล่ตามเส้นทางของผู้โจมตี และกองกำลังที่เหลือถูกขับไล่กลับไปยังดินแดนของยูเครน ที่ซึ่งพวกเขาถูกยิงถล่มจนหมดสิ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 66)