ปชป.โร่แถลงปัดเฟคนิวส์ร่วมตั้งรัฐบาลเชื่อถูกดิสเครดิต นัดประชุม 24 พ.ค.ถกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชี้แจงกระแสข่าวการเข้าร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่าเป็นข้อมูลเท็จ

โฆษกพรรค ระบุว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน โดยหลักทางกฎหมายและข้อบังคับพรรคจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะพรรคยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และยังไม่ได้เรียกประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้น ข่าวการเจรจานัดพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ เป็นข่าวบิดเบือนทั้งสิ้น ถือเป็นความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ ปชป.

ด้วยความเป็นสถาบันการเมือง พรรค ปชป.มีกฏเกณฑ์ กติกาที่ต้องทำตามระเบียบและข้อบังคับพรรค ซึ่งที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่

“ถ้าจะบอกว่ามีใครไปเจรจา มีใครไปประสานงานเพื่อร่วมรัฐบาล เป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น ในฐานะโฆษกพรรค ในฐานะดูแลเรื่องกฏหมายในพรรค เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีใครที่จะสามารถใช้อำนาจเพียงคนเดียวไปเจรจาพูดคุยในเรื่องดังกล่าวได้” นายราเมศ กล่าว

โฆษกพรรค ปชป. ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่มีการทาบทามให้ร่วมรัฐบาลจากพรรคก้าวไกล ส่วนที่มีสมาชิกพรรค หรืออดีต ส.ส.บางคนออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการโหวตสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือมีรายงานข่าวว่ามีความพยายามไปร่วมรัฐบาลนั้นเป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่การดำเนินการของพรรค

“เราไม่ไปก้าวล่วง เพราะสถานะของ ปชป.มีส.ส.อยู่ที่ 24 คน พรรคไม่มีสิทธิไปทักท้วงหรือก้าวล่วงพรรคการเมืองอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล และไม่ขอก้าวล่วงว่าพรรคใดที่จะเสนอให้ยกเลิกหรือแก้ไข มาตรา 112 ด้วย”นายราเมศ กล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันอุดมการณ์มาตลอดว่าจะดำเนินการเมืองโดยอาศัยหลักกฏหมายและเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังให้มีความนับถือและนิยมในระบบพระมหากษัตริย์ และนิยมในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปชป.ไม่มีนโยบายและไม่เห็นด้วยให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112

โฆษกพรรค ปชป.ได้นำเอกสารที่อ้างถึงการยื่นแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งในเนื้อหากฏหมายให้มีการยกเลิกมาตรา 112 อยู่ในเอกสารแผ่นแรกของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา ในมาตรา 4 ให้มีการยกเลิกมาตรา 112 แห่งประมวลกฏหมายอาญา และหากมีการเสนอร่างกฏหมายมาตรา 112 เข้าสภาอีกครั้งก็ต้องไปต่อสู้กันในระบบรัฐสภา

ส่วนกระแสข่าว ปชป.ไปเจรจากับพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อเตรียมจัดตั้งรัฐบาลหากพรรคก้าวไกลทำไม่สำเร็จนั้น นายราเมศ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ถือเป็นกระบวนการปล่อยข่าวทำลายความเชื่อถือของ ปชป. ไม่ว่าใครในพรรคไม่สามารถดำเนินการได้คนเดียว ไม่สามารถมีใครไปเจรจาตกลงกับใครทั้งสิ้น

โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 10.00น. จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อเตรียมในการสรรหาหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และเชื่อว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมจะเข้ามาฟื้นฟูพรรคให้ก้าวเดินไปข้างหน้า แม้พรรคจะแพ้การเลือกตั้งก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปิดพรรค เพราะพรรคเป็นสถาบันการเมืองที่ดำเนินการยาวนานกว่า 77 ปี มีศักดิ์ศรี นโยบายของพรรคอาจจะไม่หวือหวา แต่เชื่อมั่นว่ามีหลายส่วนที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ไม่สามารถหยุดทำกิจกรรมทางการเมืองได้ หลังจากได้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้วคงจะมีการประเมินผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 66)

Tags: , , , , , ,