นายประจินต์ คงสาคร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เจตาแบค (GTB) คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการกระจายวัคซีนในทุกประเทศทั่วโลกที่จะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และผลักดันให้มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังคำซื้อเข้ามามากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทยังมีความสนใจและมองหาโอกาสในการรับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังมีงานที่อยู่ระหว่างการเสนอราคา มูลค่ารวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดหวังว่าในช่วงครึ่งหลังปี 64 จะทยอยได้ข้อสรุปทั้งหมด
ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 1/64 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอทยอยส่งมอบและรับรูเป็นรายได้อยู่อีกกว่า 479 ล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยอมรับว่ารายได้จะไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการชะลอแผนการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนสถานการณ์ในประเทศ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ต่างๆก่อนที่จะทบทวนและประเมินทิศทางของผลประกอบการปีนี้ใหม่
ส่วนแผนลงทุนขยายธุรกิจโดยการซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) ในกิจการที่ใกล้เคียงกับบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในประเทศกลุ่ม CLMV นั้น อาจต้องชะลอการลงทุนไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยหากว่าเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวบริษัทก็มีความพร้อมในการลงทุนทันที อย่างไรก็ดีแม้ว่าแผนลงทุนอาจชะลอไปก่อนแต่ระหว่างนี้บริษัทยังมีการพูดคุยและศึกษากับทางพันธมิตรอยู่ตลอด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 64)
Tags: GTB, ประจินต์ คงสาคร, ผลประกอบการ, หุ้นไทย, เจตาแบค