กกต.จ่อตัดสิน ฟัน-ไม่ฟัน “พิธา” ปมถือหุ้นสื่อหลังประกาศรับรองผลเลือกตั้ง

พิธา

รายงานข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กรณีมีการยื่นคำร้องให้ กกต.เร่งตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลว่ามีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3) หรือไม่ จากการมีชื่อถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด จำนวน 42,000 หุ้น โดยต้องการให้ กกต.ดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนนายพิธาได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น

สำนักงาน กกต. ได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วเห็นว่า ไม่สามารถทำได้ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 61 กำหนดว่า หาก กกต.เห็นว่าผู้สมัครของพรรคการเมืองใดไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาถอนชื่อผู้นั้นออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง

แต่ขณะนี้เป็นช่วงหลังจากวันเลือกตั้งแล้ว กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ กกต.ส่งเรื่องนี้ไปให้ศาลใดพิจารณาหากดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ

และรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคท้าย ได้บัญญัติไว้ว่า กรณีกกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของส.ส. หรือสมาชิกวุฒิสภา คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ ดังนั้นช่องทางที่ กกต.จะดำเนินการเรื่องนี้ได้หากมีมติว่านายพิธามีลักษณะต้องห้าม จะต้องทำหลังจาก กกต.ประกาศรับรองนายพิธาเป็นส.ส.แล้ว ระหว่างนี้จึงเป็นขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนเท่านั้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 66)

Tags: , , , ,