โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอนระบุว่า การที่นางลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ถือเป็นการแสดงออกทางการเมืองที่อันตราย ซึ่งอังกฤษจะไม่ได้อะไรเลย ซ้ำยังจะเป็นอันตรายอีกด้วย
“เราขอเรียกร้องให้นักการเมืองอังกฤษที่เกี่ยวข้องแก้ไขการกระทำผิดของเธอ หยุดสร้างการแสดงออกทางการเมืองด้วยการตั้งคำถามเกี่ยวกับไต้หวัน และหยุดการสมรู้ร่วมคิดและสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เรียกร้องการเป็นเอกราชของไต้หวัน” ถ้อยแถลงของโฆษกสถานทูตกล่าว
นางทรัสส์นับเป็นนักการเมืองระดับสูงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของอังกฤษที่เดินทางเยือนไต้หวัน นับตั้งแต่นางมาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เดินทางเยือนไต้หวันในช่วงทศวรรษที่ 1990 และการเดินทางของนางทรัสส์ในครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่อังกฤษและจีนมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการเยือนดังกล่าวนับเป็นการแทรกแซงจีนครั้งล่าสุดของนางทรัสส์ นับตั้งแต่เธอลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อเดือนต.ค. 2565 หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียง 49 วัน ซึ่งทำลายสถิติการเป็นผู้นำอังกฤษในช่วงเวลาที่สั้นที่สุด และสร้างความวุ่นวายในตลาดการเงินและการเมือง
ท่าทีอันแข็งกร้าวของนางทรัสส์ที่มีต่อจีนนั้นตรงกันข้ามกับนายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันที่สืบทอดตำแหน่งจากเธอ โดยเขาพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีน และการเยือนไต้หวันของเธอได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล
ทั้งนี้ ไต้หวันมักต้อนรับการเดินทางมาเยือนของคณะผู้แทนทางการเมืองและธุรกิจจากต่างประเทศ ท่ามกลางความหวั่นวิตกที่ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเกาะแห่งนี้อาจเป็นชนวนก่อความขัดแย้ง เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่เลวร้ายลง
การเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อเดือนส.ค. 2565 ได้สร้างความเดือดดาลให้กับจีน ส่งผลให้มีการฝึกซ้อมรบรอบเกาะครั้งใหญ่ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อเป็นการตอบโต้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 66)
Tags: ลิซ ทรัสส์, อังกฤษ, เอกอัครราชทูต, ไต้หวัน