นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) กล่าวว่า แนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะยังทรงตัวจากไตรมาส 1/66 แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้ว แต่ความต้องการใช้สินเชื่อยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ก็ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้บริษัทต้องหันมาเน้นควบคุมคุณภาพลูกหนี้เป็นหลัก โดยเฉพาะการพิจารณาให้สินเชื่อที่จะต้องเน้นเรื่องความสามารถการชำระคืนหนี้เป็นหลัก เพื่อควบคุมให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1/66 ที่อยู่ในระดับ 2.5%
ดังนั้น บริษัทจึงเชื่อว่ากำไรในไตรมาส 2/66 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ส่วนหนึ่งมาจากฤดูกาลทางธุรกิจที่ปกติแล้วในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 กำไรจะยังไม่โดดเด่นมากนัก แต่จะเริ่มฟื้นขึ้นมาเติบโตอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป และในช่วงต้นปีนี้บริษัทยังไม่ได้รุกปล่อยสินเชื่อมากนัก รวมถึงในไตรมาส 2 เช่นเดียวกัน ทำให้ในครึ่งปีแรกกำไรจะยังค่อนข้างทรงตัวจากปีก่อน แต่มั่นใจว่าในครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นมา
นางสาวธิดา กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจว่าสินเชื่อในปี 66 จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 25-30% และจะคุม NPL ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียง 2.5% อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมั่นใจว่าในครึ่งปีหลังจะเห็นการกลับมาฟื้นตัวและเห็นผลการดำเนินงานของ SAWAD ที่เติบโตขึ้นได้ รวมถึงในช่วงไตรมาส 3/66 หรือไตรมาส 4/66 จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามาต่อยอดธุรกิจ
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อตามทิศทางภาพรวมตลาด โดยเฉพาะสินเชื่อ “เงินสดทันใจ” ที่รับซื้อคืนหุ้นจากธนาคารออมสิน คาดว่าจะปรับขึ้นไปที่ 15-18% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 13-14% ต่อปี ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมกับทางธนาคารออมสินที่ยังคงเป็นผู้ที่สนับสนุนเงินทุนปล่อยสินเชื่อด้วย เพราะเป็นสินเชื่อที่บริษัทและธนาคารออมสินร่วมกันเข้ามาช่วยเหลือในช่วงโควิด-19 โดยปัจจุบันมีพอร์ตคงค้างอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 66)
Tags: SAWAD, ธิดา แก้วบุตตา, ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น, หุ้นไทย