ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้โดยระบุว่า การที่คณะกรรมการ RBA ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค.นั้น เนื่องจากพิจารณาถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการขยายตัวด้านการผลิต รวมทั้งเงินเฟ้อในภาคบริการที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวรวดเร็วเกินคาด พร้อมกับส่งสัญญาณว่า RBA อาจจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก
ทั้งนี้ คณะกรรมการ RBA ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า คณะกรรมการ RBA ได้พิจารณาเรื่องการระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงของเงินเฟ้อแล้ว คณะกรรมการจึงได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 2 พ.ค. หลังจากที่ตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
“เมื่อพิจารณาถึง 2 ทางเลือก กรรมการ RBA ได้ตัดสินใจในท้ายที่สุดว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ กรรมการยังมีความเห็นตรงกันว่าอาจจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่การตัดสินใจดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อ”
รายงานการประชุมระบุ
นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า แรงผลักดันเบื้องต้นที่ทำให้ RBA ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคือแนวโน้มเงินเฟ้อ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของออสเตรเลียจะไม่ปรับลดลงสู่ระดับบนของกรอบคาดการณ์ที่ RBA กำหนดไว้ที่ 2-3% จนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2568
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีโอกาส 85% ที่ RBA จะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่ก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนส.ค.และก.ย. ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค.ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)
Tags: ธนาคารกลางออสเตรเลีย, ออสเตรเลีย, อัตราดอกเบี้ย, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เงินเฟ้อ