นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังผลสำรวจของอย่างน้อย 2 สำนักออกมาว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 66 พรรคก้าวไกล มีคะแนนเป็นอันดับ 2 รองจากพรรคเพื่อไทย ว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ยังคงยืนยันหลักการเดิมที่ต้องให้พรรคที่มีคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
อย่างไรก็ดี ในเรื่องเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องให้เป็นมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยพรรคก้าวไกลจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วงเย็นนี้
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วนายพิธา ระบุว่า มีความมั่นใจ 100% ที่จะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และมั่นใจ 100% ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในความมั่นใจ 100% เนื่องจากความตั้งใจของทีมงานที่ทำเต็มที่ มั่นใจในแคมเปญหาเสียง มั่นใจในตัวผู้สมัครทุกคนของพรรค ส่วนคะแนนจริงจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น อยู่ที่การตัดสินใจจากประชาชน
ส่วนกรณีที่ผลสำรวจของนิด้าโพล ออกมาว่า พรรคก้าวไกล มีคะแนนชนะถึง 32 เขต จาก 33 เขตเลือกตั้งทั้งหมดใน กทม.นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ดูในรายละเอียดของการทำโพล จึงยังไม่อยากแสดงความเห็นมาก แต่ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลวางยุทธศาสตร์การหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่แล้ว รวมทั้งการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ผ่านมาด้วย
“พื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่เราทำงานเต็มที่มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ การเลือกตั้ง ส.ก. เราหาเสียงเยอะ เราทำการเมืองแบบวิทยาศาสตร์ พื้นที่ไหนตกน้ำ ก็เติมน้ำให้เต็ม ไม่ใช่หาเสียงแบบไม่มีการวางแผน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ
อย่างไรก็ดี หากในสุดท้ายแล้วผลคะแนนจริงออกมาเหมือนผลโพล ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของทีมงานทุกคน และการวางแผนที่ดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 66)
Tags: ก้าวไกล, พรรคก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, เลือกตั้ง