เอสเอ็มไอซี (Semiconductor Manufacturing International Co – SMIC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปขนาดใหญ่ที่สุดของจีน รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (11 พ.ค.) ว่า บริษัทมีรายได้รายไตรมาสลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ภาคชิปทั่วโลกกำลังเผชิญความยากลำบากในการรับมือกับปัญหาอุปทานล้นคลังสินค้า
ทั้งนี้ เอสเอ็มไอซีมีรายได้ 1.46 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งตรงกับเดือนม.ค. – เม.ย. ลดลง 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ กำไรสุทธิลดลง 48.3% สู่ 231.1 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กลุ่มผู้บริหารของเอสเอ็มไอซีระบุว่า รายได้บริษัทที่ลดลงนั้นถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ หลังจากปัญหาขาดแคลนชิปติดต่อกันนานหลายปีทำให้ลูกค้าแห่กักตุนชิปเอาไว้จนล้นคลังสินค้า
ขณะที่ นายจ้าว ไห่จวิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอสเอ็มไอซีระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจชิปในช่วงครึ่งหลังของปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทชิปแห่งอื่น ๆ ต่างก็เผชิญภาวะยากลำบากที่คล้ายคลึงกันตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยปัญหาขาดแคลนชิปเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ส่งผลให้อุปสงค์ชิปของกลุ่มผู้ผลิตพุ่งสูงขึ้น รวมถึงเอสเอ็มไอซีด้วย แต่ต่อมายอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชะลอตัวลง ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องเผชิญกับภาวะชิปล้นคลังสินค้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 66)