บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรสุทธิในปีงบการเงิน 2565 ปรับตัวลง 14% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.45 ล้านล้านเยน (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบพุ่งขึ้น
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในปีงบการเงิน 2565 ลดลง 9% สู่ระดับ 2.73 ล้านล้านเยน แม้ว่าโตโยต้าสามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 37.15 ล้านล้านเยน อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถยนต์ และการอ่อนค่าของเงินเยนที่ทำให้มูลค่าของยอดขายในต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นเมื่อแปลงค่าเป็นเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โตโยต้าได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้บริหารเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยนายโคจิ ซาโตะ อดีตหัวหน้าแผนกรถยนต์ Lexus ได้เข้ารับตำแหน่งประธานโตโยต้าแทนนายเอคิโอะ โตโยดะ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โตโยต้าเพิ่มความพยายามในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับในปีงบการเงิน 2566 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้านั้น โตโยต้าคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 5.2% สู่ระดับ 2.58 ล้านล้านเยน และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 2.3% แตะที่ 38 ล้านล้านเยน
ทั้งนี้ โตโยต้าเปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์แบรนด์โตโยต้าและ Lexus จำนวน 10.1 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.13 ล้านคันในปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มบรรเทาลง หลังจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตของบริษัทในปีงบการเงิน 2565
นอกจากนี้ โตโยต้า รวมทั้งไดฮัทสุ มอเตอร์ และฮีโน่ มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ วางแผนที่จะทำยอดขายรถยนต์รวมกัน 11.38 ล้านคันทั่วโลกในปีงบการเงิน 2566 เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีงบการเงิน 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 66)
Tags: ผลิตรถยนต์, ยอดขาย, โตโยต้า, โตโยต้า มอเตอร์