สำนักข่าวซินหัวรายงานผลการวิจัยซึ่งเผยแพร่ในวารสารไซโคโลจิคอล เมดิซีน (Psychological Medicine) โดยระบุว่า คนหนุ่มผู้มีปัญหาการเสพกัญชา (CUD) มีความเสี่ยงที่จะป่วยโรคจิตเภทเพิ่มขึ้น
การศึกษาข้างต้นได้วิเคราะห์ข้อมูลประวัติสุขภาพของประชาชนในเดนมาร์กมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 50 ปี เพื่อประเมินสัดส่วนของการเกิดผู้ป่วยโรคจิตเภทอันมีต้นตอมาจากภาวะปัญหาการเสพกัญชาในระดับประชากร
คณะนักวิจัยพบหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างผู้มีปัญหาการเสพกัญชากับโรคจิตเภทในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งความเชื่อมโยงดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่คนหนุ่มมากกว่า ขณะแบบจำลองทางสถิติระบุว่า การหลีกเลี่ยงภาวะปัญหาการเสพกัญชาอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคจิตเภทในผู้ชายอายุ 21-30 ปี มากถึง 30%
ทั้งนี้ โรคจิตเภทเป็นโรคทางจิตที่มีอาการรุนแรงอันส่งผลกระทบต่อความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของบุคคล โดยผู้ป่วยโรคจิตเภทอาจดูเหมือนขาดความรู้ความเข้าใจภาวะความเป็นจริง และอาการของโรคนี้อาจทำใหการเข้าสังคมและทำกิจวัตรประจำวันเป็นเรื่องยาก
อย่างไรก็ดี ทั้งภาวะปัญหาการเสพกัญชาและโรคจิตเภทต่างมีหนทางรักษาอันมีประสิทธิภาพ
โนรา โวลโคว์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการติดยาเสพติดแห่งชาติสหรัฐ และผู้ร่วมเขียนงานวิจัยดังกล่าวระบุว่า ความเกี่ยวโยงระหว่างปัญหาการใช้สารเสพติดและความเจ็บป่วยทางจิตเป็นปัญหาสาธารณสุขขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการจัดการเร่งด่วนและแรงสนับสนุน
“สิ่งสำคัญคือการขยับขยายการป้องกัน การคัดกรอง และการรักษาผู้ที่อาจเผชิญอาการป่วยทางจิตอันเชื่อมโยงกับการใช้กัญชาในยามที่มีการเข้าถึงผลิตภัณฑ์กัญชาได้ง่ายขึ้น”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 66)