GABLE หุ้นเทคกระแสแรงกวาดยอดจอง IPO ครบถ้วนเคาะเทรดแรก 9 พ.ค.

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บมจ. จีเอเบิล (GABLE) กล่าวว่า ผลการเสนอขายหุ้น IPO ของ GABLE จำนวน 175 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO ในราคาหุ้นละ 6.39 บาท ระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ในฐานะผู้นำในธุรกิจดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) อย่างครบวงจร

“ผมมั่นใจว่า GABLE จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมานานกว่า 33 ปี มีการให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างครบวงจร รวมถึงมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถนำเอาองค์ความรู้ที่ได้ประสบการณ์ทำงานมาอย่างยาวนานมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับสูง และส่งผลให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต” นายสมภพ กล่าว

นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GABLE เปิดเผยว่า นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของบริษัท ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

บริษัทจะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 1,118.25 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยจะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง 560 ล้านบาท มุ่งเน้นบริษัทที่มีกรรมสิทธิ์ในเทคโนโลยีแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว และ 280 ล้านบาทใช้ชำระคืนเงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงาน

“นักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้น GABLE อย่างคึกคัก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ในฐานะผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชั่นที่มีศักยภาพและความพร้อมในการเติบโตไปกับกระแสของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) ที่องค์กรต่างๆ ต้องการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

รวมถึงธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มของตนเองที่จะสามารถสร้าง S-Curve ใหม่ให้แก่จีเอเบิล ตลอดจนการต่อยอดไปยังธุรกิจ Tech Consult เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบครบวงจร ที่จะเป็น Growth Engine ที่ทำให้จีเอเบิลเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด”

เงินระดมทุนจะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจที่จะสามารถสร้าง Synergy และเติบโตไปด้วยกันแบบ win-win เสริมทัพจีเอเบิลให้สามารถเติบโต แบบ Inorganic Growth โดยมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนและเสริมความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในการเดินหน้าเติบโตไปพร้อมกับเรา” นายชัยยุทธ กล่าว

ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งได้แก่ กลุ่มลิ่วเจริญ กลุ่มเอื้อวัฒนสกุล กลุ่มชันซื่อ และกลุ่มพันธุมวนิช และกรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิม ยังสมัครใจทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นในส่วนที่เหลือจากการติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ เป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการเข้ามาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ

ด้านผลการดำเนินงานในปี 65 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,731 ล้านบาท กำไรสุทธิ 268 ล้านบาท เติบโตเกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 63-65) ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการมุ่งเน้นโซลูชั่นที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 66)

Tags: , , , , ,