นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ ในส่วนของเครื่องจักรไลน์การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูประบบกราเวียร์ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 25-30 ล้านเมตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้การบริหารจัดการด้านการผลิตมีความยืดหยุ่น รองรับความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปของลูกค้า นำไปใช้สร้างตราสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ในปีนี้เติบโตตามแผน 15-20%
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับฐานลูกค้าในกลุ่มส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศที่มีคำสั่งซื้อฟื้นตัวอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน หลังแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้อัตราการใช้เครื่องจักรโดยเฉลี่ยในไตรมาส 2/64 คาดว่าจะสูงกว่าไตรมาสแรก ที่มีอัตราการใช้เครื่องจักร 76.11% สะท้อนถึงศักยภาพด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพและยังช่วยสนับสนุน Economy of Scale ที่บริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่มีสินค้าและบริการแบบครบวงจร เข้าไปช่วยเหลือลูกค้าสร้างตราสินค้าผ่านผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์หดรัดรูป โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าส่งออก ทั้งอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ SFT ใช้กำลังการผลิตระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่ออัตราการใช้เครื่องจักรทั้งปีของระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์อยู่ที่ 70.23% รวมถึงกลุ่มเครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาและอื่นๆ ทำให้อัตราการใช้เครื่องจักรระบบการพิมพ์แบบดิจิทัลเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 45.39% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
“ปีนี้เราเห็นคำสั่งซื้อฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาให้เราผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสของ SFT ที่มีความพร้อมด้านการผลิตสินค้าจากไลน์การผลิตใหม่ ทำให้เราตอบสนองลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของ SFT ให้เติบโตไปตามแผนที่วางไว้”
นายซุง ชง ทอย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 64)
Tags: SFT, ฉลากฟิล์มหดรัดรูป, ชริ้งเฟล็กซ์, ซุง ชง ทอย, หุ้นไทย