โฟตอนเน้นยุทธศาสตร์ New Energy กรุยทางเพิ่มยอดขายรถพลังงานใหม่

โฟตอน (FOTON) บริษัทยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำจากจีน ยกระดับยุทธศาสตร์ยานยนต์พลังงานใหม่เป็น 2.0 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ให้สูงกว่า 50% ของยอดขายยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 ภายใต้กลยุทธ์ธุรกิจ “พลังงานใหม่ 30-50” (New Energy 30-50) เพื่อการก้าวสู่องค์กรยานยนต์ด้านการพาณิชย์พลังงานใหม่ชั้นนำระดับโลก

ฉาง รุ่ย ประธานของโฟตอน กล่าวว่า บริษัทถือว่ายุทธศาสตร์พลังงานใหม่เป็นกลยุทธ์การพัฒนาหลักขององค์กร โดยบริษัทได้ลงทุนในภาคส่วนหลักของพลังงานใหม่และเร่งพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมในส่วนของการลงทุน การวิจัยและพัฒนา ห่วงโซ่อุปทาน โมเดลธุรกิจ และระบบนิเวศการตลาด

แนวทางการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พลังงานใหม่ 2.0 ของโฟตอนประกอบด้วยโครงสร้างที่เรียกว่า “1-2-3-X” โดย “1” หมายถึงเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นองค์กรยานยนต์เพื่อการพาณิชย์พลังงานใหม่ชั้นนำระดับโลก “2” หมายถึงสองตลาด ได้แก่ ตลาดจีนและตลาดต่างประเทศ “3” หมายถึงกลยุทธ์สามทาง ได้แก่ ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และการบูรณาการห่วงโซ่ระบบนิเวศ และ “X” ประกอบด้วยแพลตฟอร์มพิเศษเฉพาะ เทคโนโลยีที่เป็นอิสระ โมดูลหลัก ห่วงโซ่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ระบบนิเวศทางธุรกิจ ระบบอัจฉริยะ เทคโนโลยีพลังงาน เทคโนโลยีเชิงนิเวศ และอื่น ๆ

โฟตอนเริ่มวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่มาตั้งแต่ปี 2546 และก้าวขึ้นเป็นบริษัทจีนแห่งแรกที่จำหน่ายยานยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการสนับสนุนมหกรรมระดับนานาชาติ เช่น มหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 และ 2022 เป็นต้น โฟตอนได้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ยานยนต์ไฮบริด และยานยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วยตัวเองอย่างอิสระ โดยยานยนต์พลังงานใหม่ของบริษัท ซึ่งรวมถึงรถบรรทุกขนาดเล็ก รถตู้ และรถบัสพลังงานไฟฟ้า ได้ผ่านการรับรอง WVTA EU และขณะนี้ได้เข้าสู่ตลาดอิตาลี โปแลนด์ สเปน และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปอย่างเต็มตัว

เพื่อบรรลุเป้าหมายในการจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ให้ได้ 150,000 คันภายในปี 2568 โฟตอนจะเริ่มด้วยการสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่แบบวงจรปิดซึ่งประกอบด้วย “ยานยนต์ + เครื่องชาร์จ + พลังงานแสงอาทิตย์ + ระบบกักเก็บพลังงาน + คลัง + ระบบอัจฉริยะ”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 66)

Tags: , , , , ,