สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) ว่า สหรัฐจะส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใหม่ที่จะส่งสัญญาณแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐในการปกป้องเกาหลีใต้จากภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า แผนการจอดเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1980 นั้น เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐในการต่อต้านระบอบการปกครองของนายคิม จองอึน ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สหรัฐจะให้คำมั่นด้วยว่าจะให้เกาหลีใต้มีบทบาทมากขึ้นในการตอบสนองต่อการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ได้ประกาศข้อตกลง “ปฏิญญาวอชิงตัน” (Washington Declaration) เมื่อวันที่ 26 เม.ย.
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวอีกว่า ในปฏิญญาฯ นี้ สหรัฐจะไม่ส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเกาหลีใต้อย่างที่เคยทำในช่วงสงครามเย็น แต่จะเพิ่มจำนวนยุทโธปกรณ์ที่ส่งไปยังเกาหลีใต้เป็นการชั่วคราวแทน เช่น เรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์และเครื่องบินทิ้งระเบิด โดยความร่วมมือครั้งนี้เปรียบได้กับคราวที่สหรัฐจับมือกับพันธมิตรชาติยุโรปสมัยสงครามเย็นในช่วงภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์
ปฏิญญาดังกล่าวยังรวมถึงการพัฒนาการฝึกร่วม การแบ่งปันข้อมูลและการซ้อมรบ เพื่อป้องปรามและปกป้องเกาหลีใต้จากเกาหลีเหนือ
นายเจฟฟรีย์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์จากสถาบันการศึกษานานาชาติมิดเดิลบิวรี ในเมืองมอนเทอเรย์ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า การประกาศดังกล่าวเป็น “เรื่องเชิงสัญลักษณ์ล้วน ๆ” และมีเจตนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนชาวเกาหลีใต้ว่าสหรัฐยังคงให้การสนับสนุนต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 66)
Tags: สหรัฐ, เกาหลีใต้, เรือดำน้ำ