นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ออกมาขู่เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) ว่า รัสเซียจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะล้มดีลข้อตกลงการส่งออกผ่านทะเลดำหรือไม่
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นใบเบิกทางในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรออกจากท่าเรือของยูเครนได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางภาวะสงคราม
นายลาฟรอฟกล่าวกับนักข่าวที่สหประชาชาติ (UN) ว่า รัสเซียต้องการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรรัสเซีย (Rosselkhozbank) กลับเข้าสู่ระบบการธนาคารของสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) หรือ SWIFT อีกครั้ง
ทั้งนี้ หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบได้เพียง 2 วัน สหรัฐ, ชาติพันธมิตรจากยุโรป และแคนาดา ได้ดำเนินการกีดกันธนาคารสำคัญ ๆ ของรัสเซียออกจาก SWIFT ทำให้รัสเซียถูกตัดขาดจากระบบการเงินส่วนใหญ่ของโลก
นายลาฟรอฟยังกล่าวอีกว่า ข้อตกลงในปัจจุบันได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากรัสเซียไม่อาจขนส่งปุ๋ยของตนเองได้แบบเดียวกับที่ยูเครนขนส่งธัญพืช
นายลาฟรอฟกล่าวในการแถลงข่าวว่า “ข้อตกลงนี้ไม่ได้ชื่อข้อตกลงธัญพืช แต่มันคือข้อตกลงทะเลดำ และเนื้อหาของมันก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ข้อตกลงนี้มีขึ้นเพื่อขยายโอกาสการส่งออกธัญพืชและปุ๋ย”
“นั่นไม่ใช่ข้อตกลงที่เราคุยกันไว้เมื่อวันที่ 22 ก.ค.” นายลาฟรอฟกล่าว พร้อมชี้ว่า เรือขนส่งสินค้าของรัสเซียที่บรรทุกปุ๋ยกว่า 200,000 ตัน ยังคงติดอยู่ที่ท่าเรือหลายแห่งในยุโรป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)
Tags: ทะเลดำ, รัสเซีย, เซอร์เก ลาฟรอฟ